วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

Review Thailand












อันดับ 10 โมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

กิเลสแห่งการเดินทางไม่เคยสิ้นสุด แม้จะ “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” แต่ “ยิ่งสวย ก็ยิ่งอยากเห็น” มนุษย์นี่แหละน้าไม่เคยหยุดดั้นด้น ต่อให้ต้องข้ามเขาจนขาพับขาอ่อนก็ไม่ยอมแพ้ ขอแค่สายตาได้แลในสิ่งที่อยากเห็น แนะนำที่เที่ยวชวนสัมผัสช่วงหน้าหนาว ยอดเขา โมโกจู อีกหนึ่งบทพิสูจน์ของการเดินทาง
โมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กำแพงเพชร
12082-attachment
ด้วยความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล โมโกจู จึงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 27 กิโลเมตร ต้องเดินเท้าเข้าไป ใช้เวลาไป-กลับ 5 วัน หืออออ กินเหงื่อแทนน้ำกันจุกแน่ๆ เมื่อยตรงไหน แช่ตรงนั้น ครั้นเวลามืดมาถึง ก็ต้องหาที่ผึ่งกายกันในป่า ตามจุดที่อุทยานฯ กำหนดไว้
12095-attachment
โมโกจู ชื่ออินเตอร์ขนาดนี้ แน่นอน ภาษากะเหรี่ยงนะฮะ ไม่ใช่ญี่ปุ่นที่ไหน ฮ่าๆๆ แปลว่า “เหมือนฝนจะตก”เนื่องจากมีหมอกปกคลุมจัดบนยอดเขา โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว เย็นยะเยือก ควันออกปาก พ่นเล่นกันได้ทั้งวัน มองจากยอดเขาลงไปก็จะเห็นทะเลหมอกแห่งป่าตะวันตกอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สำหรับการเดินเท้าเข้าไปสัมผัส โมโกจู นั้นต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์โดยตรง และต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ที่นี่เค้าจัดปฐมนิเทศน์กันแบบจริงจัง เพื่อความปลอดภัยและเพื่อการทำใจไว้ล่วงหน้า แฮ่ๆ ที่แน่ๆ เตรียมกำลังขาให้สัมพันธ์กับกำลังใจดีที่สุด เพราะทางเดินขึ้นเขาตลอดเส้น ลาดชันไม่ต่ำกว่า 60 องศา อย่าลืมถ่ายภาพตอน “ง่อยเปลี้ยเสียขา” ไว้ดูเล่นนะฮะ

อันดับ 9 เกาะเสม็ด ระยอง

_Pantip_
นักท่องเที่ยวชาวไทย ยังคงหวั่นกลัวจากเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันดิบ ได้รั่วไหลลงบริเวณทะเล ในจังหวัดระยองทำให้ใครหลายคนไม่กล้าที่จะไปเที่ยวที่เกาะเสม็ดกัน อยากจะบอกว่า ทุกวันนี้ เกาะเสม็ด ได้กลับมาใสสะอาด น้ำน่าเล่นแล้วนะ และยังได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิม คือ คนไทย ที่ยังไม่มาเที่ยวกันมากขึ้นนั้นเอง!
ควงไฟ2

ช่วงเวลาเที่ยวเกาะเสม็ด
เกาะเสม็ดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนแวะเวียนไปได้ตลอดทั้งปี แต่เพียงแค่ต้องเช็คสภาพอากาศในช่วงมรสุมกันหน่อย ช่วงฤดูฝนของเสม็ด คือ เดือนพฤษภาคม-กันยายน ช่วงเดือนพฤษภาคมอาจจะพบมรสุมและคลื่นลมแรง เดือนสิงหาคมจะมีฝนตกอยู่เรื่อยๆ
เกาะเสม็ดถือว่าเป็น สวรรค์ของการพักผ่อน เลยก็ว่าได้  ทั้งๆ ที่ไม่ไกลกรุงเทพมากนัก แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดีด้วยการบริหารจัดการของเกาะไม่ให้ชาวต่างชาติเข้ามามีสัมปทานบนเกาะได้ แต่ละรีสอร์ทจึงเป็นของคนในพื้นที่จริงๆ จึงไม่ดูเป็นเกาะที่แออัดไปด้วยรีสอร์ทเยอะจนเกินไป  จึงไม่น่าแปลกใจที่เกาะเสม็ดสร้างความน่าประทับใจของผู้คนที่มาเยือนเกาะเสม็ด … ก็ต้องเสร็จ (เกาะเสม็ด) จริงๆ

สเม็ด

อันดับ 8 เกาะไหง ตรัง


4691-1
เกาะไหง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีความเงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อยกว่าเกาะลันตามาก เป็นเกาะขนาดเล็ก ไม่มีทางรถยนต์บนเกาะ  ไม่เหมือนเกาะลันตา ที่เป็นอำเภอ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เกาะไหง จึงเหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติ และท้องทะเลจริงๆ ตลอดชายฝั่งตะวันออกยาว 2.2 กม. เป็นชายหาดสีขาว และแนวปะการังทางปลายเกาะ ทางตะวันออกเฉียงใต้เกาะ มีอ่าวเล็กๆ แถวท่าเรือเป็นแหล่งดำน้ำตื้นชั้นเยี่ยม หากเราเดินต่อไปทางใต้จะพบ แหลมกวนอิม (สงสัยชาวบ้านแถบนี้ เขาดูแล้วลักษณะคล้ายเทวรูปเจ้าแม่กวนอิม)
Yatale-The-Resort-Trang-19
จุดเด่นของ เกาะไหง คือ น้ำทะเลใส ไม่ไกลนัก ทางปลายเกาะจะมีแหล่งดำน้ำตื้น (snorkeling) ชั้นยอดอยู่ ไม่ควรพลาดหากได้มาเยือน ที่พักบนรีสอร์ทบนเกาะไหง เป็นจุดชมหมู่เกาะน้อยใหญ่ได้สวยงาม ชาวต่างชาตินิยมมาอาบแดด อ่านหนังสือริมหาด หรือหากชอบดำน้ำ ก็สามารถเช่าอุปกรณ์ ได้ที่รีสอร์ท ราคาประมาณ 50 บาท หรือซื้อทัวร์เที่ยว 4 เกาะ ราคา 700 บาท/คน มีขายอยู่ทุกวัน  สี่เกาะที่ไม่ควรพลาดคือ เกาะเชือก เกาะม้า ถ้ำมรกต (เกาะมุก) อยู่อีกด้านของเกาะต้องมุด และลอยตัวเข้าไปในถ้ำ และเกาะกระดาน หรืออีกทริปที่น่าสนใจคือ เกาะรอก ขึ้นเหนือไปทางเกาะลันตา ประมาณ 29 กม.จากเกาะไหง ราคาจะสูงอีกหน่อย ประมาณ 1200 บาท/คน โดยเรือเร็ว รวมค่าเข้าอุทยานฯ หมู่เกาะลันตา

อันดับ 7 หมู่บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช

nst_att220029005
หมู่บ้านคีรีวง ตั้งอยู่ที่ ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อพยพไปอาศัยอยู่ เชิงเขาหลวง ตำบลกำโลนอันเป็นเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาหลวง ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่สงบสังคมแบบเครือญาติ อาชีพหลัก คือ การทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ ชุมชนบ้านคีรีวง ได้แก่ กลุ่มมัดย้อมกลุ่มสมุนไพร กลุ่มจักสานกะลามะพร้าว กลุ่มแปรรูปน้ำผลไม้ กลุ่มไวน์ และกลุ่มทุเรียนกวน ซึ่งแต่ ละกลุ่มจะมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวก็มักจะซื้อเป็นของฝากกันอยู่เสมอ สินค้าราคาไม่แพงและมีคุณภาพ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2531 (ปีเดียวกับเหตุการณ์ที่ กระทูน อ.พิปูน) ได้เกิดมหาอุทกธรณีภัย หมู่บ้านถูกน้ำพัดหายไปนับ 100 หลังซึ่งวัด และชาวคีรีวงได้รักษาพระอุโบสถ และบ้านที่ประสบภัยไว้เป็นอนุสรณ์สถาน
nst_att220029002
จุดเด่นของหมู่บ้านคีรีวง ก็คือ ทัศนียภาพแห่งธรรมชาติ เพราะคีรีวงตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขา ป่าไม้ และสายน้ำ ถ้าหากว่าใครต้องการที่จะไปเที่ยวที่นี่ กิจกรรมที่น่าสนใจในหมู่บ้านคีรีวง ได้แก่ การพักในที่พักแบบโฮมสเตย์ การลองชิมอาหารพื้นเมือง ถ้าหากมาในฤดูผลไม้ จะได้อร่อยกับผลไม้นานาพันธุ์ ผลผลิตของคีรีวง ตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน ชาวคีรีวง มีอาชีพหลักคือ การเพาะปลูกผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง เป็นต้น ดูเรือไม้ ของเก่า เป็นเรือที่ขุดขึ้น จากซุงทั้งต้น มีชื่อเรียกกันมาแต่เดิมว่า เรือเหนือ ชาวคีรีวงในอดีตใช้เรือนี้บรรทุกผลไม้ เพื่อนำไปแลกอาหารและของจำเป็นต่างๆ จากผู้คนซึ่งอยู่ในที่ราบ นอกพื้นที่ของภูเขาที่ล้อมรอบอยู่
สะพานคีรีวงก์
ส่วนในช่วง เดือนเมษายน ถึง กันยายน ถ้าสนใจจะขึ้นเขาและเดินป่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสม ชุมชนคีรีวงมี ผู้นำทาง และลูกหาบให้นักท่องเที่ยวเสมอ ดูและถ่ายรูป สถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นอนุสรณ์แห่งอุทกภัย พ.ศ. 2518 และ พ.ศ. 2531 ถ่ายรูปกับภูมิสัญลักษณ์ รูปสายน้ำแห่งวิถีชีวิต ชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP พร้อมกับชมจุดสาธิตสิ่งต่างๆ ความพิเศษของ คีรีวง ก็คือ เป็นแหล่งที่มีการทำสินค้า OTOP หลายประเภท ผลิตภัณฑ์คีรีวงที่ได้รับเลือกเป็น ผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว ได้แก่ ผ้ามัดย้อม สีธรรมชาติ

อันดับ 6 ตลาดร่มหุบ สมุทรสงคราม

IMG_2126
ตลาดร่มหุบ หรือ ตลาดแม่กลอง แต่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า ตลาดเสี่ยงตาย เป็นตลาดที่ติดอยู่กับ สถานีรถไฟแม่กลอง และเป็นส่วนหนึ่งของตลาดเทศบาลจังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดร่มหุบ เริ่มมาตั้งขาย บริเวณทางริมรถไฟประมาณปี พ.ศ. 2527 เป็นตลาดที่อยู่บนทางรถไฟ สายแม่กลอง-บ้านแหลมพ่อค้า-แม่ค้า ตั้งแผงสองข้างทางรถไฟ ส่วนลูกค้าก็อาศัยทางรถไฟเป็นถนน สำหรับจับจ่ายซื้อของ
ตลาดร่มหุบ ยังคงครองตำแหน่ง “ตลาดหวาดเสียวที่สุดในโลก” มาโดยตลอด ด้วยต้องหลบรถไฟวันละถึง 8 เที่ยว ภายในตลาดแม่กลองเต็มไปด้วยร้านค้ามากกว่า 300 ร้าน เลียบทางรถไฟยาวกว่า 500 เมตร พอรถไฟผ่านมาจะชะลอความเร็ว วิ่งด้วย 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนพ่อค้าแม่ค้ารีบเก็บร้าน และหุบร่มของตน เมื่อขบวนรถผ่านไป จึงจะกางร่ม ซึ่งระยะห่างระหว่างรถไฟกับแผงร้านค้ายังไม่ถึง เมตร ในประเทศไทยจึงเรียกตลาดแห่งนี้ว่า ตลาดร่มหุบ
images